โดย...ผศ. นาม  ศิริเสถียร

          ประมาณปี พ.ศ. 2482 ผมอายุ 7 ขวบ ได้ยินคุณพ่อนั่งคุยกับเพื่อนบ้าน เรื่องพุทธพยากรณ์ ท่านพูดว่า “พระพุทธศาสนาจะอยู่ยืนนานเพียง 5,000 ปี ถึงขณะนั้นคนจะฆ่าฟันล้มตายกันเป็นจำนวนมากทั่วโลก เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีศีลธรรม จึงมีชีวิตรอดได้” และท่านได้พูดต่อไปว่า “เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล คือ พ.ศ. 2500 ปี เป็นต้นไป มนุษย์จะฆ่าฟัน โหดเหี้ยม ขาดศีลธรรมกันมากขึ้น คนจะเดือดร้อนทวีความรุนแรงยิ่ง ๆ ขึ้น จนกระทั่งถึงพุทธกาลคือ พ.ศ. 5000”

ผมฟังแล้ว มิได้คิดอะไรขณะนั้น เพราะอายุยังน้อย ยังเขลาในสิ่งที่คุณพ่อพูด แต่มาเดี๋ยวนี้อายุ 73 ปี 7 เดือน มองปัญหาต่าง ๆ ในปัจจุบันในบ้านเราและทั่วโลก แล้วย้อนกลับนึกถึงคำพูดของคุณพ่อที่เคยพูดไว้ ชักใกล้ความจริงมากขึ้น ฉะนั้นโอกาสที่จะเป็นไปได้สูงครับ โดยเฉพาะในปี 2547-2548 มีเหตุการณ์ที่ทำความเสียหายแก่มนุษย์และทรัพย์สินมาก อาทิ แผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย คลื่นสึนามิ เมื่อ 26 ธ.ค. 2547 มีคนตาย 171,254 คน สูญหาย 127,392 คน บาดเจ็บ 42,706 คน ใน 12 ประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกาและไทย คนตายมากที่สุดตามลำดับ ต่อมาเมื่อ 29 ก.ย. 2548 เฮอริเคนแคทรินา พัดถล่มสหรัฐอเมริกา รัฐนิวออลีนส์ทำความเสียหายให้สหรัฐอเมริกาเป็นอันมาก เหมือนนิทานแต่เป็นของจริง นอกจากนี้ยังมีน้ำท่วมในประเทศต่าง ๆ เกือบทั่วโลก อาทิ จีน อินเดีย เวียดนาม เม็กซิโก กัวเตมาลา และไทย เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2548 แผ่นดินไหวในปากีสถาน คนตาย 35,000 คน ในแคว้นแคชเมียร์ บาดเจ็บ 41,000 คน (โลกยามเช้า 15 ต.ค. 2548) บ้านเรือนพังพินาศมากมาย ที่เกิดจากภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ความสูญเสียของโลกเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากภัยธรรมชาติที่มนุษย์มีความโลภบริโภคเกินความจำเป็นจึงทำลายธรรมชาติมาก  ไม่ว่าป่าไม้ น้ำมัน จึงทำให้ความสมดุลของโลกเปลี่ยนแปลงไป และเมื่อ 28 ก.ย. 2548 จากคำรายงานของนางจูเลียนเน สโตรอีฟ จากแหล่งข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติ ร่วมกับมหาวิทยาลัยโคโลราโดและมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สำรวจปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ พบว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือเหลืออยู่น้อยที่สุดในรอบ 100 ปี เขาเชื่อว่าเนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้ทะเลน้ำแข็งจมละลายหายไป นี่คือภาวะ “เรือนกระจก” กำลังส่งผลให้อุณหภูมิและสภาวะอากาศแปรปรวนไปทั่วโลก

            กลับมาดูในประเทศของเราบ้าง ข่าวจากทีวี หนังสือพิมพ์ จะเห็นว่าคนตายเนื่องจากอุบัติเหตุรถชนเพราะดื่มสุรา ฆ่ากันตาย ข่มขืนฆ่า มีทุกวัน พ่อข่มขืนลูก ลูกฆ่าแม่-พ่อ เด็ก ๆ ยังฆ่ากันเอง ครูข่มขืนศิษย์ พระ(พวกห่มผ้าเหลือง) ร่วมกับสีกา  ปี 2547 มีคดีข่มขืน 5,052 คดี นี่เพียง 5% ของผู้ถูกข่มขืนทั้งประเทศ ที่เหลือไม่กล้าแจ้งความ คดีข่มขืนมีตั้งแต่เด็ก 2 ขวบ ถึงคุณยายวัย 80 ปี เกิดมา 74 ปี เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ นอกจากนี้คนยังตายด้วยไข้หวัดนก โรคเอดส์ เยาวชนสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า มีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่อายุ 14-15 ปี สิ่งเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากคนขาดศีลธรรม มีความอยาก ความโลภ ตามใจที่ฉันต้องการ จึงทำให้สังคมวุ่นวาย ปัญหาต่าง ๆ ก็เกิดขึ้น คำทำนายของพุทธพยากรณ์ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกขณะ ถ้าพวกเรารู้จักพอ มีความสำรวมในการกินอยู่ มีศีลธรรม มีพรหมวิหาร 4 มีหิริโอตตัปปะ กันบ้าง โลกของเราก็น่าอยู่ดีกว่านี้เยอะ เริ่มที่ตัวเราครอบครัวของเราครับ จำไว้ว่ามนุษย์เราหนีกฎแห่งกรรมของตนเองไม่ได้ครับ มาทำดีกันเถอะ
พุทธพยากรณ์เกิดขึ้นเนื่องจาก พระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งแคว้นโกศลทรงพระสุบินนิมิต 16 ประการ พระองค์ทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงพยากรณ์ไว้ ดังนี้

            “ความดีลด ความชั่วหนาแน่น โลกเสื่อมถอย ฝนจะแล้ง เกิดทุพภิกขภัย มนุษย์มีอายุสั้นลง ชนทั้งหลายจะมีราคะกล้า เด็กพากันมีเพศสัมพันธ์ มีครรภ์มีครอบครัว ตั้งแต่ยังแรกรุ่น ชนทั้งหลายจะพากันกระด้างละทิ้งประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ ไม่ยำเกรงบิดามารดา ปู่ย่าตายาย หาทรัพย์ได้แล้วไม่บำรุงบุพการี ผู้ใหญ่ที่แก่เฒ่าหาเลี้ยงตนไม่ได้ต้องอ้อนวอนลูกหลานเลี้ยงชีพ ผู้เป็นผู้ใหญ่ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม ไม่แต่งตั้งผู้ใหญ่ที่เป็นบัณฑิต ฉลาดในภารกิจของชาติให้ลุล่วงไป ฉลาดในการวินิจฉัยคดีในโรงศาล กลับแต่งตั้งคนหนุ่มผู้อ่อนประสบการณ์ไม่รู้สิ่งที่ควรไม่ควร ไม่สามารถทำให้ภารกิจลุล่วงได้ ผู้คนอ่อนประสบการณ์ต่างพากันทอดทิ้งภาระทั้งหลายที่ได้รับมอบหมาย ความเสื่อมจึงเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง

            ผู้เป็นผู้ใหญ่แต่งตั้งชนผู้ไม่หนักแน่นในธรรมไว้ในตำแหน่งวินิจฉัยคดี คนพาลเหล่านั้นไม่ละอาย ไม่กลัวบาปรับสินบนจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ผู้เป็นใหญ่ลุอำนาจด้วยอคติ วินิจฉัยคดีโดยไม่เป็นธรรม มุ่งหวังแต่สินบน ขาดพรหมวิหารธรรมต่อประชาชนทั้งหลายเป็นผู้หยาบคายกักขฬะเบียดเบียนขูดรีดทรัพย์ของประชาชนในเมืองทั้งหลาย จนประชาชนต้องพากันทิ้งเมืองไปอยู่ในชนบท สร้างถิ่นฐานในที่นั้น ในศูนย์กลางเมืองใหญ่ก็ว่างเปล่า แต่ชนบทกลับเป็นปึกแผ่น

            ศาสนาของตถาคตเสื่อมโทรม พวกภิกษุอลัชชีเห็นแก่ปัจจัย ภิกษุเหล่านั้นไม่แสดงธรรม เพื่อทำให้ชนทั้งหลายพ้นทุกข์แต่จะแสดงธรรมแลกปัจจัย

            พวกทุศีลจะเป็นที่น่าเชื่อถือ ทั้งในที่ประชุมของผู้ปกครอง ในที่สาธารณชน แม้ในที่โรงศาล ขณะที่ถ้อยคำของภิกษุผู้มีศีลจะไม่หนักแน่นมั่นคง

            ในอนาคตกาล ผู้เป็นใหญ่ปกครองบริหารแผ่นดินจะเป็นผู้ไม่ฉลาดในกิจการทั้งปวง แต่ตั้งพวกรับใช้ใกล้ชิด สนิทสนมให้เป็นผู้ใหญ่

            นี่แค่ย่อสรุป คิดว่าคงเห็นภาพแห่งความวุ่นวาย วิบัติกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าเป็นดังพุทธพยากรณ์จริง ๆ และใคร่ขอรายงานจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในรอบ 45 ปี หลังกึ่งพุทธกาลว่ามีความโหดร้ายรุนแรงคร่าชีวิตมนุษย์เราไปมากเพียงใด

เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในรอบ 50 ปี

        1. วันที่ 29 ก.พ. 2503 ชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโมร็อกโก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.7 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 12,000 คน เมืองอากาเดียร์พังราบ
        2. วันที่ 4 ก.พ. 2519 ประเทศกัวเตมาลา วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.5 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 22,778 คน
        3. วันที่ 28 ก.ค. 2519 เมืองถังชาน ประเทศจีน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8-8.2 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 240,000 คน
        4. วันที่ 16 ก.ย. 2521 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.7 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 25,000 คน
        5. วันที่ 19 ก.ย. 2528 ภาคกลางของประเทศเม็กซิโก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.1 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 9,500 คน
        6. วันที่ 7 ธ.ค. 2531 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอาร์เมเนีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 25,000 คน
        7. วันที่ 21 มิ.ย. 2533 ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.3-7.7 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 50,000 คน
        8. วันที่ 30 ก.ย. 2536 เมืองลาตูร์ ประเทศอินเดีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.0 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 10,000 คน
        9. วันที่ 17 ม.ค. 2538 เมืองโกเบของญี่ปุ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน
        10. วันที่ 30 พ.ค. 2541 ภาคเหนือของประเทศอัฟกานีสถานและนาจิกิสถาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 5,000 คน
        11. วันที่ 25 ม.ค. 2542 ภาคตะวันตกของประเทศโคลอมเบีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.0 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 1,171 คน
        12. วันที่ 17 ส.ค. 2542 ภาคตะวันตกของประเทศตุรกี วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.4 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 17,000 คน
        13. วันที่ 21 ก.ย. 2542 เกาะไต้หวัน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 2,400 คน
        14. วันที่ 26 ม.ค. 2544 รัฐกุจรัต ประเทศอินเดีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.9 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 2,500 คน แต่คาดว่าตัวเลขน่าจะสูงถึง 13,000 คน
        15. วันที่ 25 มี.ค. 2545 ภาคเหนือของประเทศอัฟกานีสถาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 1,000 คน
        16. วันที่ 21 พ.ค. 2546 ภาคเหนือของประเทศแอลจีเรีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 2,300 คน
        17. วันที่ 26 ธ.ค. 2546 เมืองบาม ประเทศอิหร่าน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.5 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 26,000 คน
        18. วันที่ 26 ธ.ค. 2547 เกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.0 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 171,254 คน สูญหาย 127,392 คน บาดเจ็บ 42,706 คน ใน 12 ประเทศแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
        19. วันที่ 28 มี.ค. 2548 เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.7 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 1,000 คน
        20. วันที่ 8 ต.ค. 2548 แคว้นแคธเมียร์ในปากีสถาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริคเตอร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 73,224 คน (จากข่าวโลกยามเช้า ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล 3 พ.ย. 48)

            จากตัวเลขตั้งแต่ 2503-2548 มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทั้งหมด 20 ครั้ง ถ้าแบ่งช่วงจะพบว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2503-2520 เกิดแผ่นดินไหวเพียง 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 274,778 คน พ.ศ.2521-2530 มีแผ่นดินไหวเพียง 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 120,000 คน ในปี 2531-2540 เกิดแผ่นดินไหว 4 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเพียง 91,000 คน แต่ในปี 2541-2548 เกิดแผ่นดินไหวถี่สูงมากขึ้น 11 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตถึง 318,349 คน รวมมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 20 ครั้งสูงถึง 804,127 คน นี่เพิ่งผ่านกึ่งพุทธกาลมาเพียง 48 ปีเท่านั้น โอกาสข้างหน้า อีก 2,552 ปี จึงจะถึงพุทธกาลคือ 5,000 ปี ใครที่เกิดมีชีวิตอยู่ในช่วงนั้น ๆ คงจะได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าพุทธพยากรณ์มีความเป็นจริงแค่ไหน แต่ผมคนหนึ่งค่อนข้างเชื่อว่า ความจริงต่าง ๆ คงจะเกิดขึ้นแน่นอนตามพุทธพยากรณ์ เพราะเพียงผ่านกึ่งพุทธกาลมา 48 ปี เท่านั้นก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้วมากมาย มีแนวโน้มจะเพิ่มมากยิ่ง ๆ ขึ้น ถ้ารัฐบาลไม่วางแผนพัฒนาการศึกษาของชาติ ให้เยาวชนที่จะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ คือ มีความรู้คู่คุณธรรม เน้นเข้าใจ เข้าถึง มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงให้คนในชาติ ลดละเลิกสิ่งเสพติดต่าง ๆ ให้คนมีศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรม บริโภคในสิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีพเท่านั้น มิใช่บริโภคตามความอยากความปรารถนา มีความโลภเหมือนปัจจุบัน

            ท้ายที่สุดนี้ใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายพยายามขจัด หรือลดความโลภ โกรธ หลง ตั้งอยู่ในศีลธรรมกันทั้งครอบครัว มีความสุข ความเจริญ แคล้วคลาดภัยพิบัติต่าง ๆ ตลอดกาลนานเทอญ

ที่มา
1.  มติชน  5 ก.ย. 48 หน้า 4, 30 ก.ย. 48 หน้า 21 และ 10 ต.ค. 48 หน้า 32
2.  เดลินิวส์  11 ต.ค. 48 หน้า 2
3.  สุขภาพคนไทย 2548 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)